4 ผ้าตัดชุดแต่งงานที่เจ้าสาวควรรู้ก่อนเริ่มตัดหรือเช่าชุด

การเลือกผ้าตัดชุดแต่งงานนั้นถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้การเลือกดีไซน์ชุดแต่งงานที่ต้องใช้ทั้งความพิถีพิถันและเวลาที่ค่อนข้างมากครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกเช่าหรือตัดชุดแต่งงานใหม่เป็นของตัวเองก็ตาม คุณก็ยังต้องตอบตัวเองว่าผ้าแบบไหนที่เหมาะสมกับธีมงานและสไตล์ที่คุณชื่นชอบมากที่สุดครับ แน่นอนว่าคงมีน้อยคนมากๆ ที่จะรู้ว่าผ้าตัดชุดแต่งงานมีกี่ประเภทและใช้งานต่างกันอย่างไรใช่ไหมครับ

วันนี้วนัช กูตูร์ ในฐานะที่เรามีประสบการณ์ในการตัดชุดเจ้าสาวมาเป็นเวลาหลายสิบปี และได้ตัดชุดให้กับเซเลปและผู้มีชื่อเสียงในไทยมาเป็นจำนวนมาก เราจะพาคุณว่าที่เจ้าสาวไปทำความเข้าใจว่าผ้าตัดชุดแต่งงานที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง และแต่ละแบบเหมาะสำหรับการตัดเป็นชุดแต่งงานแบบไหนครับ

1. ผ้าซาติน (Satin) ผ้าตัดชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบหรู

ผ้าซาตินคือหนึ่งในผ้าตัดชุดแต่งงานที่มีจุดเด่นที่มอบความรู้สึกบางเบาใส่แล้วนุ่มลื่นสบายครับ ด้วยความลื่นของผ้าซาตินนี้เองจึงทำให้เหมาะสำหรับการตัดทำเป็นชุดแต่งงานที่เน้นลุคเรียบหรูดูแพงเป็นพิเศษ เพราะเวลาที่เจ้าสาวสวมใส่ชุดแต่งงาน เนื้อผ้าซาตินก็จะทิ้งตัวแนบไปกับเรือนร่างของคุณและเผยให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างเจ้าสาวครับ ยิ่งได้ความมันเงาจากเนื้อผ้าซาตินก็ยิ่งช่วยให้คุณดูหรูหราและแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ได้อย่างลงตัวครับ

จุดเด่นของผ้าซาตินที่เรียบลื่นใส่แล้วนุ่มสบายนี่เองทำมันกลายเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมในการนำมาทำเป็นชุดแต่งงานมากๆ ครับ ไม่ว่าจะตัดเย็บชุดออกมาในรูปแบบหรือสไตล์ไหนก็สามารถทำให้ออกมาดูสวยงามและสื่อถึงอารมณ์ได้มากที่สุดครับ

ยิ่งไปกว่านั้น ความทนทานของผ้าซาตินยังมีส่วนช่วยให้ชุดแต่งงานที่ตัดเย็บด้วยผ้าชนิดนี้ไม่ขาดง่าย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความหนาของผ้าที่จะส่งผลโดยตรงต่อการระบายอากาศ และไม่ค่อยเหมาะกับเจ้าสาวที่จะสวมใส่ชุดนี้ในงานกลางแจ้งหรือไม่มีเครื่องปรับอากาศครับ

สรุปได้ว่า หากว่าที่เจ้าสาวต้องการอยากได้ชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบหรูดูแล้วสวยงามเลอค่า ใส่สบายแถมยังคงทนต่อการชำรุดเสียหาย ผ้าซาตินก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ

2. ผ้าชามัวส์ (Charmeuse) ผ้าตัดชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบหรูและเหมาะกับอากาศเมืองไทย

เมื่อมองด้วยตาเปล่าคุณอาจคิดว่าผ้าชามัวส์มันก็เหมือนๆ กับผ้าซาตินใช่ไหมครับ แต่ความจริงแล้วผ้าชามัวส์นั้นมีความบางเบามากกว่า แถมยังได้เนื้อผ้าที่ค่อนข้างแน่นและมีความมันวาวในระดับที่ใกล้เคียงกับผ้าซาตินครับ

หากว่าที่เจ้าสาวคนไหนตัดสินใจเลือกผ้าชามัวส์มาตัดเป็นชุดแต่งงาน คุณก็จะรู้สึกได้ถึงความเบาสบายได้จากเนื้อผ้าที่ช่วยให้เคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วครับ ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูดูดีไม่แพ้ผ้าซาตินที่เหมาะกับการนำมาตัดเป็นชุดแต่งงานสไตล์ที่เน้นความหรูหราครับ

จากลักษณะของผ้าชามัวส์ที่มีน้ำหนักทำให้เนื้อผ้าจะปล่อยทิ้งตัวแนบกับลำตัวของเจ้าสาว จึงเหมาะอย่างมากสำหรับการนำมาตัดเป็นชุดเจ้าสาวที่มีลักษณะเป็นกระโปรงทรงตรง หรือที่เรียกในชื่อ empire ครับ ซึ่งชุดเจ้าสาวสไตล์นี้เน้นความเรียบหรูและเมื่อเจ้าสาวเดินหรือเคลื่อนไหวก็จะดูเหมือนนางหงส์ได้เคลื่อนที่ช้าๆ อย่างสง่างามครับ

ผ้าชามัวร์นั้นถือได้ว่าเป็นผ้าตัดชุดแต่งงานที่เหมาะสำหรับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัด และยังคงอวดโฉมโชว์ความหรูหราท่ามกลางแสงแดดที่ส่องกระทบมายังตัวคุณได้เป็นอย่างดีครับ

3. ผ้าชีฟอง (Chiffon) ผ้าตัดชุดแต่งงานที่เน้นความบางเบา

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่อยากได้ผ้าตัดชุดแต่งงานที่มีความเบาและบางมากเป็นพิเศษ ผ้าชีฟองคือผ้าที่เหมาะสำหรับการนำมาตัดชุดแต่งงานของคุณครับ ด้วยเนื้อผ้าที่มีลักษณะโปร่งจึงสามารถใช้เทคนิคเล่นเลเยอร์ซ้อนกันเป็นชั้นบนชุดเจ้าสาวได้อย่างสวยงามลงตัวครับ

ผ้าชีฟองจึงนิยมได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาตัดเป็นชุดแต่งงาน เพราะเหมาะกับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยด้วยความสามารถในการระบายอากาศได้ดี ยิ่งนำผ้าชีฟองมาตัดเย็บเป็นกระโปรงที่ซ้อนกันเป็นเลเยอร์ ก็ยิ่งทำให้เจ้าสาวที่ได้สวมใส่ชุดนั้นเหมือนกับเจ้าหญิงที่กำลังเต้นรำอย่างพลิ้วไหวและดูน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมากครับ

แต่สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับชุดแต่งงานที่ตัดเย็บจากผ้าชีฟองก็คือ คุณระมัดระวังเมื่อต้องเคลื่อนไหวหรือเดินไปไหนมาไหนให้ดีๆ ครับ ด้วยความที่ผ้าบางระบายความร้อนดีนี้อาจทำให้ชุดของคุณขาดง่ายเมื่อไปเกี่ยวเข้ากับอะไร ดังนั้นเจ้าสาวที่จะใส่ชุดแต่งงานผ้าชีฟองก็ควรดูว่าพิธีการไม่ได้มีอะไรให้ต้องเดินมากนัก หรือเป็นงานที่จัดในพื้นที่ค่อนข้างโล่ง จะได้ไม่มีอะไรมาเกี่ยวหรือทำให้คุณเดินสะดุดไปชนครับ

4. ผ้าออร์แกนซ่า (Organza) ผ้าตัดชุดแต่งงานที่เน้นความบางเบา

มาปิดท้ายการเลือกผ้าตัดชุดแต่งงานอย่างผ้าออร์แกนซ่า ซึ่งเกิดมาคู่กับเจ้าสาวที่ต้องการชุดแต่งงานในสไตล์สวยชวนฝันครับ หากว่าดีไซน์ชุดที่คุณกำลังจะตัดอยากเน้นความหวานผสมความเรียบหรูแบบพอดีๆ ผ้าออร์แกนซ่าก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากครับ

โดยจุดเด่นของผ้าออร์แกนซ่าก็คือความบางเบาและโปร่งแสงคล้ายกับผ้าชีฟองครับ แต่ว่าการที่ผ้าตัดชุดแต่งงานชนิดนี้ทำจากเส้นไหมธรรมชาติคุณภาพดี จึงทำให้เนื้อผ้ามีลักษณะแข็งและมีความมันวาวน้อยกว่า หากเทียบกันแล้วผ้าออร์แกนจะไม่ได้ปล่อยน้ำหนักแนบไปกับเรือนร่างของเจ้าสาวมากเท่ากับผ้าชีฟองครับ

ผ้าออร์แกนซ่าจึงเหมาะสำหรับนำมาตัดเป็นชุดแต่งงานที่มีทรงชัดเจนและไม่ได้แนบไปกับเรือนร่างของเจ้าสาวครับ ตัวอย่างเช่น ชุดแต่งงานทรง Ballgown หรือ A-line ที่เมื่อเจ้าสาวเช่นคุณได้สวมใส่แล้วก็จะดูสวยอย่างมีระดับและไม่ได้หวานจนเกินไปครับ

เช่นเดียวกับผ้าชีฟองที่มีความโปร่งและบางเบาระบายอากาศได้ดี ผ้าออร์แกนซ่าจึงเหมาะกับการนำมาใช้ตัดเป็นชุดแต่งงานสำหรับงานที่มีอากาศร้อนเป็นอย่างมากครับ แต่คุณเจ้าสาวก็ต้องคอยระมัดระวังอย่าเดินแล้วชุดไปเกี่ยวเข้ากับอะไรก็ตาม ไม่อย่างนั้นชุดแต่งงานแสนสวยของคุณก็อาจจะขาดหลุดลุ่ยได้ครับ

มาถึงตรงนี้ว่าที่เจ้าสาวหลายคนคงจะเข้าใจแล้วว่าผ้าตัดชุดแต่งงานทั้ง 4 ประเภทนั้นเหมาะกับการนำมาใช้ตัดชุดแบบไหนบ้างแล้วใช่ไหมครับ หากคุณต้องการตัดชุดเจ้าสาวที่สวยงามและมีสไตล์ตรงตามที่คุณต้องการ ก็สามารถปรึกษาเรา วนัช กูตูร์ ได้ที่นี่ครับ